นายกฯ ขอบคุณคนไทย ยัง “ยกการ์ดสูง” หลังอนามัยโพล เผย ประชาชนป้องกันตนเองมากขึ้น แม้จะคลายมาตรการแล้ว เมื่อวันที่ 3 ก.ค. น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พอใจผลสำรวจล่าสุดของอนามัยโพล โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง “แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรค” พบว่า
ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อเข้าสถานที่ปิด เมื่อใกล้ชิดผู้ป่วย ผู้มีความเสี่ยงสูง หรือร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น
เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.7 เป็นร้อยละ 91 ล้างมือด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อสัมผัสวัตถุหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.8 เป็นร้อยละ 91 และคัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81.4 เป็น 83.5 สะท้อนว่า แม้รัฐบาลจะมีการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 มากขึ้นตามลำดับ แต่ประชาชนยังคงป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณคนไทยที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยถือว่ายัง “ยกการ์ดสูง” แม้สถานการณ์การติดเชื้อในประเทศจะลงลดมากแล้ว แต่การระมัดระวังป้องกัน ยังมีความจำเป็นต่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงเป็นแนวทางเพื่อลดจำนวนการติดเชื้อในประเทศได้ดีด้วย โดยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลาเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เว้นระยะห่าง หมั่นตรวจสอบตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ของโรค
“นายกรัฐมนตรี ยังขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้รีบมาฉีดวัคซีนเพิ่มเพื่อสร้างภูมิต้านทาน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิตสูง โดยวัคซีนเข็มกระตุ้น จะช่วยลดอาการความรุนแรงหากติดเชื้อ อีกทั้งยังเพิ่มภูมิต้านทานป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมีความจำเป็น แม้สถานการณ์การติดเชื้อจะเริ่มลงแล้วก็ตาม” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
สลากดิจิทัลงวดสาม หมดแล้ว 5.14 ล้านใบ ภายใน 2 วัน โฆษกรัฐบาลเผย ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ด้าน “นายกฯ” ย้ำสำรวจความพอใจคู่ขนานแก้ปัญหา
วันที่ 3 กรกฎาคม 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยการจำหน่ายสลากดิจิทัล งวดที่สาม 16 กรกฎาคม 2565 ที่เปิดจำหน่ายในระบบจำนวนสลากทั้งหมด 5,146,000 ใบ วันแรก เมื่อวานนี้ 2 ก.ค. 65 จำหน่ายไปได้เพียง 2 วัน มีประชาชนเข้ามาซื้อสลากดิจิทัลหมดแล้ว ถือว่าขายได้เร็วกว่างวดที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ติดตามผลการจำหน่ายสลากอย่างต่อเนื่อง ประเมินผลและหากพบปัญหาติดขัดให้เร่งดำเนินในทันที ซึ่งขณะนี้สลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการพัฒนาตัวเลือกในแอปฯ “เป๋าตัง” เพิ่มขึ้น เพื่อให้ซื้อสลากดิจิทัลกับร้านค้าผู้พิการได้ และจะพัฒนาให้สามารถควบคุมการทำงานด้วยเสียงได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กลุ่มผู้พิการ
งวดวันที่ 2 สิงหาคม 2565 เตรียมเพิ่มลากอีก 2 ล้านใบ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 จะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล อีก 2 ล้านใบ เป็น 7.1 ล้านใบ โดยจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 จะมีการเพิ่มจุดจำหน่ายสลากฯ 80 บาท ให้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,077 จุดทั่วประเทศ ตลอดจนจะนำร่องขยายจุดจำหน่ายสลากฯ ไปยังปั๊มน้ำมัน ปตท. และบางจากทั่วประเทศ ไม่น้อยกว่า 2,000 จุด ภายในปีนี้ ทั้งหมดนี้จะทำให้ประชาชนเข้าถึงสลากฯ ราคา 80 บาทได้มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนแสดงความพอใจกับการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ราคาสลาก 80 บาท มีอยู่จริง และมีความเชื่อมั่นต่อแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงระบบการจำหน่าย และการขึ้นเงินรางวัลผ่านแอป “เป๋าตัง” เชื่อว่ามีความปลอดภัยสูง
ชายแดนเมียนมา และ ไทยยังคงเป็นพื้นที่สงครามต่อเนื่อง ล่าสุด ไทยส่งขึ้นบินขึ้นฟ้า ป้องกันชายแดน ป้องกันไม่ให้เครื่องบินเมียนมาล้ำชายแดน สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับเมียนมายังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อวานนี้เครื่องบินรบเมียนมา ตีวงกว้างไปหน่อย และล้ำเข้าสู่ชายแดนไทย ในขณะที่กำลังรบกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ในรัฐกะเหรี่ยงของเมียนมา
ในวันนี้ ทหารเมียนมายังใช้ปืน ค.120 มม. ระดมใส่พื้นที่รอบฐานอูเกรทะ และเปิดปฎิบัติการทางอากาศ โดยใช้เครื่องบินรบ 2 ลำบินเลียบแนวชายแดน อ.พบพระ ในระดับต่ำพร้อมยิงจรวดและปืนกลถล่มรอบฐานอูเกรทะ ทำให้เกิดเสียงระเบิดทั่วหมู่บ้าน
ด้านกองทัพไทยได้นำ เครื่องบินรบติดอาวุธ เอฟ-16 ของกองทัพอากาศไทย 2 ลำได้บินมาลาดตระเวนเหนือน่านฟ้า อ.พบพระ ทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นแบบเดิมอีกทั้งนี้ผู้สื่อข่าวระบุว่า ไม่มีการบินลุกล้ำน่านฟ้าระหว่างประเทศดั่งที่หลายฝ่ายกังวล
ขณะเดียวกันหลังเครื่องบินรบเมียนมาบินทิ้งระเบิดและยิงจรวดใกล้แนวชายแดนไทย ชาวบ้านวาเล่ย์เหนือและวาเล่ย์ใต้ หมู่ที่ 2 และหมู่ 3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้านต้องรีบประกาศเสียงตามสาย ขอให้ชาวบ้านทุกคนให้หลบในหลุมหลบภัย หลังสิ้นเสียงประกาศ ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านก็วิ่งไปในหลุมหลบภัยกันชุลมุน
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง